การให้อาหาร B A R F ค่อนข้างยุ่งยากในเมืองไทยคับเพราะว่าต้องการเป็นการใช้เนื้อสดและต้องแน่ใจว่าเนื้อนั้นปลอดเชื้อโรคมารวมกับผัก ซึ่งในต่างประเทศยกตัวอย่างประเทศอเมริกานะคับ จะทำอาหารจำพวก RAW FOOD สำเร็จเตรียมขายไว้ในช่องแข็งตามร้านเพทช๊อปมากมาย แต่ออกจะยุ่งยากสำหรับการเตรียมในประเทศไทยสักหน่อยคับ ทองเอกเคยทาน B A R F ตั้งแต่สองเดือน แต่ข้อควรระวังหากเนื้อนั้นไม่ดีจริงๆ อาจจะทำให้เกิดการติดเชื้อในท้องได้นะคับ รวมไปถึง พาราไซด์ต่างๆอีก อาจจะทำให้น้องหมาท้องเสียได้ง่ายคับ
ส่วนอาการโรคตับวาย อันนี้เคยโพสไว้ก่อนหน้านี้ในประเทศไทยมีอาหารสุนัขหลายยี่ห้อที่เรียกตัวเองว่าเกรดพรีเมี่ยม แต่ส่วนผสมนั้นได้แค่ระดับ สองดาว เท่านั้นเอง ส่วนตัวก็ยังแนะนำอาหารเม็ดมากกว่า เนื่องจากสะดวก หาซื้อง่าย แถมมีการขัดฟันไม่ต้องไปขูดหินปูนเนื่องจากทานอาหารสด กลับมาดูว่าทำไมทานอาหารพรีเมี่ยมแล้วตับวาย ไม่แตกต่างจากน้องหมาที่เพิ่งเสียชีวิตที่บ้านไปเลยคับ
viewtopic.php?f=7&t=283 อ่านได้จากกระทู้ไว้อาลัยของน้องหมาที่บ้านคับ ที่เพิ่งเสียชีวิตจากตับวายเช่นเดียวกัน สาเหตุจากอาการตับวายเกิดมาเนื่องจาก อาหารสุนัขบางยี่ห้อที่บอกว่าพรีเมี่ยมนี่แหละคับ ส่วนผสมส่วนใหญ่มาจากข้าวโพด กลูเต็น วีท มีแต่แค่กลิ่นไก่ ไม่ได้ทำมาจากเนื้อสัตว์แท้ๆ มีส่วนผสม มีท บายโพรดักส์ ทานไปไม่ย่อยก็สะสมเป็นเวลานาน ก็ทำให้ตับวายได้คับ ลองอ่านจากที่เคยโพสไว้ขอก๊อปมาอีกรอบนะคับ ลองอ่านดูด้านล่างคับ
ไม่อยากให้มองที่ยี่ห้อเป็นหลักนะคับ อยากให้มองที่ส่วนผสมหรือวัตถุดิบของอาหารเม็ดนั้นๆเป็นหลัก บางครั้งอาหารบางยี่ห้อราคาหลายพัน แต่ส่วนผสมไม่ดี ก็มีเยอะแยะไปคับ เพราะว่าทางบริษัทอาหารสุนัขใหญ่ ใช้เงินลงทุนไปกับการโฆษณาเยอะมาก เหมือนผู้บริโภคต้องมารับบทหนักตรงนี้อาหารสุนัขยี่ห้อที่เป็นที่รู้จักกันมาก ราคาแพง แต่ส่วนผสมไม่เวิร์ค เหมือนทั้งถุง สามพันนั้น เราจ่ายค่าโฆษณาให้บริษัทเค้าคับ ลองมาอ่านดูนะคับ เช่น
ส่วนผสมแรกของ อาหารเม็ด ต้องเป็นเนื้อสัตว์ ได้แก่ ไก่ ไก่ง่วง แซลมอน หรือ แกะ ในส่วนผสมแรกไม่ควรจะเป็นข้าวโพด หรือข้าว หรือ คำว่า Poultry meat หรือสัตว์ปีก เพราะว่าไม่รู้ว่าสัตว์ปีกประเภทไหน และที่ไม่แนะนำข้าวโพด กับข้าว เนื่องจากข้าวโพดย่อยยากและจะไปสะสมในตับจนทำให้เวลาน้องหมาอายุมากขึ้น ทำให้เป็นโรคไตได้คับ การที่อาหารหมาบางยี่ห้อใช้ข้าวโพด เนื่องจากเป็นโปรตีนราคาถูก แต่เรากลับต้องไปจ่ายค่าโฆษณาให้กับบริษัทที่ผลิตอาหารสุนัขเหล่านี้คับ
และ ข้าวหรือ Rice จะเป็น Brown rice,Rice,Barley ไม่ควรมีมากกว่าสอง ในส่วนผสมของอาหาร เพราะว่าสุนัข เป็นสัตว์ที่ปรับสายพันธ์มาจาก หมาป่า ซึ่งแทบจะไม่ใช่สัตว์ที่กินข้าวเลยด้วยซ้ำนะคับ เพราะฉะนั้นองค์ประกอบภายในร่างกายก็ไม่ได้สร้างมาเพื่อย่อยข้าว เพราะฉะนั้นหากมีข้าวอยู่ในส่วนผสมมากจนเกินไปก็จะทำให้อ้วนง่ายขึ้นคับ
ไม่ควรจะมีคำว่า By-Product คำนี้ ยกตัวอย่างเช่น Chicken By product แปลว่าไม่ได้นำเนื้อไก่ล้วนมาผลิต แต่รวมไปถึงกระดูกไก่ ขนไก่ หงอนไก่ ทุกส่วนของไก่ มารวมอยู่ด้วย ซึ่งไม่ย่อยเช่นกัน
ไม่ควรมีคำว่า Wheat,soy,Corn,Gluten ล้วนแล้วแต่เป็นโปรตีนราคาถูกที่เอามาทดแทนโปรตีนจากเนื้อสัตว์จริง แล้วจะซื้อข้าวโพดถุงละสองพันมาให้น้องหมากินทำไมใช่ไหมคับ
ส่วนอาหารสำหรับลูกโกลเด้นน้อยๆ ไม่ควรให้ Calcium สูงกว่า 1.2 %เนื่องจากการเสริมแคลเซียมหรือให้แคลเซียมสำหรับลูกสุนัขพันธ์ใหญ่ อาจจะทำให้การเจริญเติบโตผิดปกติ เกิดอาการของกระดูกขาหน้าบิด หรือยาวไม่เท่ากันได้คับ และทำให้กระดูกไม่แข็งแรงพอ ส่วน Phosphorus ไม่ควรเกิน 1.0 % เพราะว่าจะช่วยไปเร่งโตเหมือนกันนะคับ เพราะฉะนั้นหากให้แนะนำให้เด้นน้อยทานแคลเซียมเสริม นั่นคือของต้องห้ามสำหรับชาวเด้นน้อยเลยคับ จะเริ่มทานได้เมื่อโตเต็มที่แล้วจริงๆ เมื่อ สองขวบครึ่งไปแล้ว
ส่วนโปรตีน มีความเชื่อมากมาย ว่าถ้าลูกสุนัขกินโปรตีนมากบางคนบอกว่าไม่ดีเร่งโต บางคนบอกว่าจะไปสะสมในตับ บางคนบอกว่าดีจะได้ไปซ่อมแซมส่วนสึกหรอ แต่จากที่เคยค้นคว้าสำหรับลูกสุนัข โปรตีนไม่ควรต่ำไปกว่า 22% และไม่ควรมากกว่า 32% แต่ถ้าร่างกายสุนัขแข็งแรงโปรตีนส่วนที่เกินมาจะถูกขับออกทางปัสสาวะคับ
และที่ขาดไม่ได้เลยสำหรับเด้น คือ ที่หน้าถุงควรเป็นอาหารสำหรับหมาใหญ่ หรือ Large breed เนื่องจากอาหารประเภทนี้จะทำมาเม็ดใหญ่ กว่า ปกติ เนื่องจากถ้าใช้เม็ดเล็กช่องว่างระว่างเม็ดจะน้อยลง จะทำให้อาหารจะไปเต็มในท้องหมามากขึ้นและทำให้อ้วนง่ายขึ้น และเคี้ยวง่ายขึ้น ได้ขัดฟันไปในตัวคับ
ที่ขาดไม่ได้ วิตามินท้ายถุง สำหรับชาวเด้นแล้ว ควรจะมีส่วนผสมของ Glucosamine และ Chondroitin Sulfate เพื่อบำรุงข้อ หรือสะโพกของเราเหล่าชาวเด้น
หากคิดว่าเด้นของท่านอ้วนเกินไป
สามารถดูจากอาหาร ได้ จาก FAT อาหารหมาทั่วๆไป ส่วนมากจะอยู่ที่ 12-14 % มากกว่านั้นอาจจะเพิ่มไขมันมาเพื่อบำรุงให้ขนสวยขึ้นเนื่องจากได้นำมันเพิ่มความเงางาม แต่จะต้องออกกำลังกายมากขึ้น
แม้แต่คนทานอาหารก็ยังเป็นห่วงเรื่องแคลอรี่ ของน้องหมาก็มีเหมือนกัน โดยเฉพาะอาหารหมานำเข้า มักจะมีบอกอยู่ท้ายด้านหลังถุงเสมอว่า
เช่น
Calorie Content:
3,701 kcal/kg (95 g = 1 cup)
380 kcal/cup (3.3 oz = 1 cup)
แปลว่ามีแคลรอลี่ประมาณ 380 ซึ่ง อาหารสุนัขทั่วไปจะอยู่ประมาณเลขนี้ แต่ถ้าสูงมากกว่านี้ จนสี่ร้อยกว่า จำเป็นต้องให้สุนัขออกกำลังกายมากขึ้นหรือ อาหารที่แคลอรี่สูงๆก็เหมาะสำหรับน้องหมาที่ไฮเปอร์ตลอดวันเช่นกันคับ
และที่สำคัญก็คือ น้องหมาทานแล้ว อึสวย อึเป็นก้อน ไม่เหลว ทานแล้วสุขภาพดี น้ำตาไม่ไหล ไม่เป็นรังแค ไม่มีอาการคัน หรืออาการแพ้ นั้นก็คือสิ่งสำคัญเช่นกันคับ
ในความคิดเห็นส่วนตัว ไม่เคยยึดติดกับยี่ห้อเลย แต่จะมองที่ส่วนผสมของอาหารเป็นหลัก มีซุปเปอร์พรีเมียมของนอก หลายยี่ห้อให้ลอง และของไทยก็มีนะคับ แล้วแต่พลังกระเป๋าตังค์ของเหล่าผู้รับใช้เช่นเราๆ นี่แหละคับ ต่อให้ซื้อ อาหารหมากระสอบละสามพัน แล้วบอกว่ารักหมาไม่เคยกอดหมาสักครั้งก็เท่านั้นแหละคับ อาหารเป็นเพียงส่วนประกอบทำให้น้องเด้นมีชีวิตอยู่กับเรายืนยาวขึ้น สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ ความรัก และการเอาใจใส่คับ
หากมีปัญหาข้องใจเรื่อง โภชนาการอาหารเด้น ลองหากระทู้เก่าๆได้ นะคับ มีเพียบ